21 พ.ย. 2553

“พระมหาธรรมราชาลิไทย” หรือ “พระศรีธรรมาโศกราช” ไปร่วมสร้างพระ “ผงสุพรรณ” ได้ยังไง?

“พระมหาธรรมราชาลิไทย” หรือ “พระศรีธรรมาโศกราช” ไปร่วมสร้างพระ “ผงสุพรรณ” ได้ยังไง?
แล้วที่ว่า “..พระมหาเถรปิยทัสสีสารีบุตร คือ เป็นใหญ่เป็นประธานในที่นั้น..” เป็นใคร มาจากไหนกันหนอ?
ต้องย้อนรอยประวัติศาสตร์กันก่อนนะครับ..สมัยก่อนโน้............น   (นานมากๆ)  ประเทศไทยของเรายังไม่ได้รวมชาติเป็นปึกแผ่น (ตอนนี้ไม่ค่อยแน่ใจ..ยังไงยังไง..ชอบกลน่ะ)  ผู้คนก็อยู่กันตามหัวเมือง ตามอาณาจักรต่างๆ  ที่รู้จักกันดีก็คือ “อาณาจักรสุโขทัย” และ “อาณาจักรอยุธยา”  ช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกัน ต่างคนต่างใหญ่ ก็ต้องชิงไหวชิงพริบกันเป็นธรรมดา
ยุคสมัยของ “พระมหาธรรมราชาลิไทย” หรือ “พระศรีธรรมาโศกราช” ในจารึกลานเงินลานทองตามตำนานการสร้างพระ “ผงสุพรรณ” และ “ซุ้มกอ” นั้น ก็อยู่ในช่วงคาบเกี่ยวกับสมัยของ “พระเจ้าอู่ทอง” แห่งกรุงศรีอยุธยา  พระองค์มีการดำเนินนโยบายที่แยบยลมาก ใช้ศาสนานำการเมืองทำนอง
“อาตมาของบิณฑบาตเมืองนี้...เถิด”   นั่นแหละครับ 
จากหนังสือของ “คุณพิเศษ  เจียจันทร์พงษ์”  เรื่อง “ศาสนาและการเมืองในประวัติศาสตร์ สุโขทัย-อยุธยา” มีความตอนหนึ่งว่า 
          "ในสมัยของพระมหาธรรมราชาลิไทยปรากฏความในเอกสารของล้านนา คือ ตำนานมูลศาสนาเรื่องพระภิกษุชาวสุโขทัยสองรูปได้เดินทางไปนครพันในประเทศพม่า เพื่อบวชเรียนพระไตรปิฎก กับพระมหาเถรผู้มีชื่อเสียง พระภิกษุสองรูปนั้นคือ พระสุมนะ และ พระอโนมทัสสี เมื่อกลับมาสุโขทัยแล้วก็ยังนำพระภิกษุอีกหลายรูปเดินทางกลับไปเล่าเรียนเพิ่มขึ้น เมื่อกลับมาครั้งหลังพระภิกษุเหล่านี้ได้ถูกส่งไปเผยแพร่ศาสนาที่เรียนมา เฉพาะที่ไปต่างแคว้นก็คือ พระสุวัณณคิรีไปหลวงพระบาง พระปิยทัสสีไปอโยธา พระเวสสภูไปเมืองน่าน"
อะฮ้า!...เจอแล้วครับ  “พระปิยทัสสีไปอโยธยา” ใช่แล้วครับ “พระปิยทัสสีได้ไปพบพระเจ้าอู่ทองแห่งอาณาจักรอยุธยาอย่างแน่นอน  และในปี พ.ศ.๑๘๙๐ ซึ่งเป็นปีที่สร้าง “พระผงสุพรรณ”  เป็นปีเดียวกันกับที่ “พระมหาธรรมราชาลิไทย” ขึ้นครองราชย์  พระองค์จึงถือโอกาสนี้มาเจริญพระราชไมตรีกับอยุธยา(เข้าทำนองมากับพระนั่นแหละครับ)     พอสร้างพระบรรจุกรุกันเรียบร้อยก็ถือโอกาสขอเมือง “ชัยนาท” คืนจากจากอยุธยา  เหมือนกับที่ “พระสุมนะ” ขอบิณฑบาตเมือง “ตาก” จาก “พระเจ้ากือนา” มหาราชแห่งเมืองเชียงใหม่กลับมาให้แคว้นสุโขทัยแบบสบายๆ โดยมิต้องรบพุ่ง 
งานนี้...คุ้มจริงๆ บุญก็ได้..เมืองก็ได้
นี่แหละครับนโยบายศาสนานำการเมือง  ใครจะ “copy ไปใช้บ้างก็ได้นะครับ

เชิญแวะชม "ร้านเก๋าสยามพาณิชย์" ตาม Link นี้ด้านล่างเลยนะครับ  

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น